9 เหตุผลที่คนเราควรตื่นมาวิ่งในตอนเช้า
การวิ่งจัดเป็นการออกกำลังกายประเภทหนึ่งที่ง่ายและสะดวก เพราะสามารถวิ่งได้ทุกที่ ทุกเพศและทุกวัย แต่ถึงแม้จะวิ่งได้ตลอดเวลาที่สะดวก เวลาเช้ากลับเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการวิ่ง เพราะจะได้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ แต่ว่าประโยชน์ในการวิ่งตอนนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
1. ได้สูดอากาศสดชื่นในยามเช้า
เชื่อหรือไม่ว่าอากาศในยามเช้าตรู่นี้บริสุทธิ์มากๆ เพราะว่ายังเป็นช่วงที่ยังมียานพาหนะบนถนนค่อนข้างน้อย จึงไม่ค่อยมีมลพิษปะปนอยู่ในอากาศ เพราะฉะนั้นการออกมาวิ่งในเวลานี้จึงช่วยให้ร่างกายรู้สึกเย็นสดชื่น ระบบประสาทผ่อนคลาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ใช้ชีวิตได้อย่างกระตือรือร้นตลอดทั้งวัน
2. เริ่มต้นวันใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน เพราะแค่จะแซะตัวเองให้ลุกไปทำงานได้ทันเวลาก็เป็นเรื่องยากแล้ว ดังนั้นคนที่ออกมาวิ่งตอนเช้าได้จึงไม่ต่างอะไรกับการพิชิตเป้าหมายได้แล้ว 1 อย่างใน 1 วัน มันช่วยส่งเสริมพลังด้านบวกให้กับชีวิต คล้ายๆกับการให้รางวัลตัวเองเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ใครที่ไม่เคยออกกำลังกายตอนเช้ามาก่อนเลยแล้วฝืนตัวเองให้ลุกมาวิ่งในตอนเช้าได้นี่ ยังสามารถชนะใจตัวเองได้อีกหนึ่งอย่างด้วย เพราะการฝืนตัวเองหลุกออกจากเตียงนุ่มๆในขณะง่วงสุดขีดนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
3. ช่วยผ่อนคลายความเครียด
มีงานวิจัยบางชิ้นเปิดเผยว่าการวิ่งในตอนเช้านั้นช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการหลั่งฮอร์โมนเอนโดรฟินในขณะวิ่ง ฮอร์โมนนี้เป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ถ้ามีมากๆก็จะช่วยให้มีความสุขและรู้สึกผ่อนคลายนั่นเอง ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือเวลาวิ่งก็จะจดจ่อกับการวิ่ง ทำให้ลืมความทุกข์ความเครียดไปได้ชั่วขณะ สมองจะปลอดโปร่งโล่งสบาย ทำให้คิดอะไรดีๆได้มากขึ้น เผลอๆอาจได้แนวทางการแก้ปัญหาในขณะวิ่งนี่เอง
4. ทำให้รักสุขภาพมากขึ้น
การใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้ค่อนข้างเหนื่อยและเร่งรีบ เพราะฉะนั้นการที่จะสละเวลาการนอนและตื่นเช้ามากขึ้นไปอีกเพื่อออกกำลังกาย ย่อมหมายความว่าคนคนนั้นรักสุขภาพและอยากดูแลตัวเองให้ดีมากขึ้น ดังนั้นก็จะมีแนวโน้มทานอาหารที่ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังทำให้รู้สึกหิว ทานอาหารได้เยอะขึ้น มีโอกาสอดอาหารเช้าน้อยลง ผลดีคือสมองจะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมร่างกายยังมีพลังงานไว้ใช้เพียงพอตลอดในช่วงเช้าด้วย
5. ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ
ในตอนเช้าตรู่ อากาศจะค่อนข้างสงบและเย็นสบายมากกว่าเวลาอื่น ไม่ต้องเผชิญกับฝุ่นควันและมลภาวะทางเสียง บางพื้นที่อาจได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ได้ยินเสียงนกร้อง ได้มีเวลาครุ่นคิดหรือวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ช่วยเติมพลังแห่งความสุขให้ร่างกายได้ สำหรับผู้ที่ชอบนอนดึกตื่นสาย บางคนมีเหตุผลว่าชอบความเงียบสงบในยามดึก อยากจะบอกว่า ในยามเช้าก็เงียบสงบไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นอยากให้ลองปรับเปลี่ยนเวลานอนกันดู เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติยามเช้าแล้ว ยังดีต่อสุขภาพร่างกายด้วย
6. ทำให้นอนหลับดีขึ้น
คนที่วิ่งในตอนเช้าจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเต็มไปด้วยพลังในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ได้ใช้พลังงานไปทั้งหมดไปกับการทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อถึงเวลากลางคืนจะรู้สึกง่วงได้ง่ายขึ้น นอนหลับได้สนิท สำหรับใครที่มีปัญหานอนหลับอยากลองตื่นมาวิ่งตอนเช้าดูสัก 1-2 สัปดาห์ แล้วจะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างแน่นอน
7. ช่วยลดความดันโลหิต
การวิ่งคือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอประเภทหนึ่ง ซึ่งมันช่วยส่งเสริมการทำงานของหัวใจและปอดได้เป็นอย่างดี ส่งเสริมการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับสมดุล สำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงตามปกติ การวิ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตลงได้เยอะมาก ส่วนใครที่ป่วยเป็นโรคนี้ไปแล้ว การวิ่งจะช่วยควบคุมอาการของโรคไม่ให้รุนแรงได้ ทั้งนี้จะต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการทานยาด้วย
8. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
จากประโยชน์หลายๆข้อที่กล่าวถึงไปด้านบน จะสังเกตได้ว่าการวิ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้ทั้งสมองและร่างกาย เพราะฉะนั้นมันจึงทำให้ร่างกายมีความตื่นตัว กระฉับกระเฉง คล่องแคล่วว่องไวมากขึ้น มีความคิดที่แหลมคม สามารถรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น
9. เพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย
แสงแดดอ่อนๆในยามเช้าจะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีได้มากขึ้น วิตามินตัวนี้ช่วยในเรื่องการดูดซึมแคลเซียม ช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคข้อกระดูกลงได้มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะโรคกระดูกพรุน และนอกจากช่วยบำรุงกระดูกแล้วยังบำรุงสายตาได้อีกด้วย จึงอยากให้ออกมาวิ่งในตอนเช้ากันให้มากๆ
ก่อนจะวิ่งในตอนเช้า ต้องทานอาหารหรือเปล่า
เมื่อตื่นเช้ามา ท้องจะว่าง อาจทำให้รู้สึกหิวในขณะวิ่งได้ บางคนอาจไม่มีแรง พอวิ่งเสร็จอาจหน้ามืดวิงเวียนศีรษะจนเป็นลมเป็นแล้งกันไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นทานอาหารก่อนจะดีกว่า แต่ว่าก็ต้องมีเทคนิคการทานอยู่เล็กน้อย เนื่องจากถ้าทานผิดวิธี อาจจุกเสียดจนวิ่งไม่สนุกได้
- ทานอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ในช่วงแรกของการวิ่งร่างกายต้องการน้ำตาลมาเป็นพลังงาน ลองทานขนมปังโฮลวีทสัก 1-2 แผ่นหรือกล้วยสักครึ่งลูกจะช่วยให้มีแรงวิ่งมากขึ้น ไม่เหนื่อยเกินไป ไม่รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนอยากจะเป็นลมด้วย
- ทานก่อนวิ่ง เว้นระยะห่างในการทานอาหารและการวิ่งสักประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นอาหารมื้อใหญ่กว่าขนมปัง 2 แผ่นควรเว้นให้นานกว่านี้ เพราะหลังจากทานอาหารใหม่ๆ ร่างกายจะนำพลังงานไปใช้ในการย่อยอาหาร ดังนั้นหากทานแล้วมาวิ่งเลย ร่างกายจำเป็นต้องแบ่งพลังงานที่ใช้ย่อยมาใช้ในการวิ่งด้วย ผลที่ได้คืออาการจุกเสียดแน่นนั่นเอง เมื่อแน่นท้องขึ้นมาแล้วละก็หมดสนุกในการวิ่งไปเลยทีเดียว
- คาเฟอีนช่วยเพิ่มความอึด ลองดื่มกาแฟดำดูสักแก้วก่อนจะไปวิ่ง คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยให้รู้สึกเหนื่อยน้อยลง วิ่งได้ทนทานมากขึ้น
หลังวิ่งเสร็จต้องทานอาหารเลยหรือเปล่า
พูดถึงการทานอาหารก่อนวิ่งกันมาแล้วมาดูการทานหลังวิ่งกันดูบ้าง จริงๆมื้อนี้สำคัญมากกว่า เพราะนอกจากจะเป็นมื้ออาหารหลังวิ่งแล้วยังเป็นมื้อเช้าด้วย เมื่อวิ่งเสร็จร่างกายใช้พลังงานไปมากแถมยังสูญเสียเกลือแร่จากการที่เหงื่อออกอีก เพราะฉะนั้นจำเป็นมากที่จะต้องได้รับสารอาหารเข้าไปชดเชย เพื่อที่จะได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้กลับมาแข็งแรงมากกว่าเดิม แล้วถ้ารู้สึกไม่หิวล่ะ ไม่ทานได้ไหม? คำตอบคือไม่ได้ เข้าใจว่าการทานอาหารในตอนเช้ามากๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะไม่ค่อยหิวแล้วยังรู้สึกฝืดคอจนกลืนอาหารลำบากอีก เพราะฉะนั้นถ้าใครรู้สึกไม่อยากอาหารหลังวิ่งเสร็จ ลองเปลี่ยนไปเป็นดื่มนมถั่วเหลืองหรือนมช็อคโกแลตเย็นๆสักกล่อง ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้ในระดับหนึ่ง พอเริ่มสายหน่อยหากรู้สึกหิวให้ทานทันที ห้ามละเลยอาหารมื้อเช้าเป็นอันขาด
จะเห็นได้ว่าการวิ่งในตอนเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว ใครที่อยากลองวิ่งแนะนำให้เริ่มลองในตอนเช้าดูก่อนเลย รับรองว่านอกจากจะได้ประโยชน์ในเรื่องสุขภาพแล้ว ยังมีผลดีในด้านอื่นตามมามากมายอย่างแน่นอน เมื่อรู้ประโยชน์กันขนาดนี้แล้วจะพลาดการวิ่งในตอนเช้ากันไปได้อย่างไร เตรียมใส่รองเท้าคู่ใจแล้วออกไปวิ่งกันเลยดีกว่าค่ะ
