IF(Intermittent Fasting) คืออะไร? ทำควบคู่กับการวิ่งแล้วลดน้ำหนักได้ดีจริงหรือ?
บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน Intermittent Fasting หรือ IF สงสัยไหมว่ามันคืออะไร?
Intermittent Fasting(IF) คืออะไร?
สรุปแบบง่ายๆบ้านๆ Intermittent Fasting หรือ IF นั้น คือการจัดระบบอาหารการกินของเรานั่นเอง โดยจะเป็นการอดอาหารเป็นช่วงๆ โดยส่วนมากจะอยู่ในช่วง 12 ชั่วโมงหรือ 16 ชั่วโมง
สั้นๆคือ เป็นการควบคุมอาหารวิธีหนึ่งนั่นเอง คือจัดให้ตัวเองกินเป็นเวลามากขึ้น เพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิผลมากขึ้น เช่น วันนี้กินอาหารเย็นเสร็จแล้วตอน 6 โมง จากนั้นก็ไม่กินอะไรอีกเลย ยาวไป 12 หรือ 16 ชั่วโมง แม้แต่กินจุบจิบก็ตาม ไปกินอีกทีมือเช้าหรือมื้อเที่ยงของวันถัดมาเลย
นอกจากการกินเป็นเวลาแล้ว ก็ยังมีการจำกัดประเภทอาหารที่กินด้วย โดยต้องเลือกอาหารที่แคลอรี่ต่ำๆเข้าไว้ รวมทั้งเครื่องดื่มก็ควรงดประเภทน้ำอัดลม แม้จะเป็นน้ำอัดลมสูตรไดเอ็ทด้วย
Intermittent Fasting(IF) ดีต่อร่างกายแน่หรือ?
หลายคนอาจจะกังวลว่า ถ้าต้องอดอาหารแล้ว จะไม่เป็นอะไรจริงหรือ คำตอบคือไม่เป็นอะไร ถ้าอดแบบถูกต้อง ไม่อดถึงขั้นปล่อยให้ตัวเองหิวจนแสบท้องทรมาน และเผื่อใครที่ยังไม่รู้ การทำ Intermittent Fasting นั้นแท้จริงแล้วดีกับร่างกายมากกว่าที่คิด โดยอย่างแรกเลยคือสามารถกระตุ้นการกินตัวเองของเซลล์ หรือ Autophagy หรือคือช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ได้ดีขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ยังสามารถลดไขมัน ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราทำ Intermittent Fasting ควบคู่ไปกับการวิ่งออกกำลังกายด้วย จะยิ่งทำให้ลดน้ำหนักได้ไว แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีวินัยในตัวเองด้วย ใครที่เคยกินเป็นพายุอยู่เสมอ พอให้มาอดอาหารทีก็อาจจะลอกแลก อยู่ไม่สุข หงุดหงิด ซึ่งถ้าอยากลดน้ำหนักจริงๆก็ต้องพยายามผ่านจุดนี้ไปให้ได้ (ท่องไว้ว่า “ฉันต้องหุ่นดีๆๆๆ!!”)
เท่านั้นยังไม่พอ ประโยชน์อื่นๆของการทำ Intermittent Fasting นอกจากการกระตุ้นการซ่อมแซมตัวเองของเซลล์ และการลดน้ำหนักให้ร่างกายได้สัดส่วนแล้ว มันยังมีดีด้านอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเยียวยาโรคมะเร็ง โดยผู้ป่วยโรคมะเร็งที่อดอาหารในช่วง 48-140 ชั่วโมงในระหว่างทำคีโมนั้น จะช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการทำคีโมได้ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย เพราะในเมื่อเซลล์ประสาทถูกกระตุ้นให้ซ่อมแซมตัวเองมากๆเข้าแล้ว เปอร์เซ็นต์ที่จะป่วยเป็นโรคก็น้อยลงไปด้วย
วิธีการวิ่งออกกำลังกายร่วมกับการทำ Intermittent Fasting(IF) ให้ได้ผลชะงัด
เมื่อรู้แล้วว่า IF นั้นดีต่อการลดน้ำหนักอย่างไร ทีนี้เราก็มาดูกันว่า เราควรจะทำควบคู่กับการวิ่งอย่างไร ถึงจะดีต่อร่างกาย และลดน้ำหนักได้ผลจริง
การวิ่งนั้นจัดเป็นการออกกำลังกายแบบ High Intensity หรือการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ที่จะกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจค่อนข้างมาก หรือคือใช้พลังค่อนข้างเยอะนั่นเอง ซึ่งเป็นรูปแบบที่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบจริงจัง เมื่อนำมาทำร่วมกับ IF แล้ว จะยิ่งทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี คือทั้งจำกัดไม่ให้เอาพลังงานเข้ามากเกินไป และมีการเบิร์นออกมาเยอะๆ ก็จะสมดุลย์กัน
และนอกจากนี้ การวิ่งในช่วงอดอาหารนั้น ร่างกายจะยังมีการนำไขมันและไกลโคเจนออกมาใช้เป็นพลังงานด้วย ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการวิ่ง ก็คือให้วิ่งระหว่างช่วงที่กำลังอดอาหารเพื่อรอทานมื้อแรก หรือง่ายๆคือ ช่วงที่ดีที่สุด คือการวิ่งก่อนเริ่มกินอาหารเช้านั่นเอง โดยสมมุติว่า เมื่อวานคุณกินอาหารเย็นไปตอนประมาณ 4 โมง นับไปอีก 16 ชั่วโมงก็เป็นเวลา 8 โมงเช้า คุณอาจตื่นมาวิ่งตอนตี 5 หรือตอน 6 โมงเช้าก็ได้ แล้วแต่สะดวก แต่คือให้ทำก่อนจะถึงเวลาอาหาร คือ 8 โมงเช้า
ถ้าคุณไม่ทำตามนี้ ถ้ารอกินอาหารเช้าก่อนแล้วค่อยไปวิ่ง จะทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเข้าไปเป็นปริมาณมาก แบบนี้ก็จะยิ่งทำให้ลดน้ำหนักได้ยาก
สรุป…
การทำ IF พร้อมกับวิ่งนั้นจะได้ผลก็ต่อเมื่อตัวเราเองมีวินัย และมุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพจริงๆ สิ่งสำคัญคือการหาแรงบันดาลใจ ว่าทำไมเราถึงอยากลดน้ำหนัก เช่น อยากใส่ชุดสวยๆ หรือไม่อยากอ้วนแล้วเป็นโรค ฯลฯ เมื่อได้แรงบันดาลใจแล้วก็ต้องหนักแน่น ทำตามวิธีและหลักการข้างต้น โดยเฉพาะในส่วนของการควบคุมอาหารนั้นต้องใจแข็งมากเป็นพิเศษ ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด